หุ้น ตัวเลือก ใน ส่วนตัว จำกัด บริษัท

ตัวเลือกหุ้น (สิ่งจูงใจ) บทความนี้เกี่ยวกับ Incentive Stock Options ไม่ใช่ตัวเลือกหุ้นในตลาดที่มีการซื้อขายในตลาดสาธารณะ ตัวเลือกหุ้นของสิ่งจูงใจมักเรียกกันว่า SARs - สิทธิการใช้ความระมัดระวังด้านสต็อก การสนทนานี้ใช้กับตลาดแคนาดาและหน่วยงานที่ถูกหักภาษีโดย Customs Customs and Revenue Agency (CCRA) ของแคนาดา Theres ไม่ค่อยมีโอกาสเมื่อตัวเลือกหุ้นไม่เกิดขึ้นเป็นหัวข้อการสนทนาที่ชื่นชอบในหมู่ผู้ประกอบการเทคโนโลยีชั้นสูงและซีอีโอ ซีอีโอหลายคนมองว่าตัวเลือกเป็นวิธีการดึงดูดความสามารถระดับสูงจากสหรัฐอเมริกาและที่อื่น ๆ บทความนี้เกี่ยวข้องกับคำถามเกี่ยวกับตัวเลือกหุ้นของพนักงานซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับ บริษัท มหาชน อย่างไรก็ตามตัวเลือกหุ้นก็เป็นที่นิยมเช่นเดียวกับ บริษัท เอกชน (โดยเฉพาะผู้ที่วางแผนเสนอขายหุ้นในอนาคต) ทำไมไม่เพียงแค่ให้หุ้นในกรณีของทั้ง บริษัท เอกชนและ บริษัท มหาชนตัวเลือกหุ้นจะใช้แทนเพียง quotgivingquot หุ้นให้กับพนักงาน นี้จะทำเพื่อเหตุผลทางภาษี ช่วงเวลาเดียวที่หุ้นสามารถให้เครดิตได้โดยไม่มีผลเสียต่อภาษีคือเมื่อ บริษัท ก่อตั้งขึ้นเช่นเมื่อหุ้นมีค่าเป็นศูนย์ ในขั้นตอนนี้ผู้ก่อตั้งและพนักงานทุกคนสามารถได้รับหุ้น (แทนตัวเลือก) แต่ในขณะที่ บริษัท มีวิวัฒนาการหุ้นก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้น หากมีการลงทุนใน บริษัท หุ้นดังกล่าวถือว่าเป็นมูลค่า ถ้าหุ้นมีการให้สิทธิแก่บุคคลอื่นบุคคลนั้นจะได้รับการชดเชยในราคาตลาดยุติธรรมของหุ้นเหล่านั้นและอยู่ภายใต้รายได้ดังกล่าว แต่ทุนสนับสนุนหุ้นจะไม่ต้องเสียภาษีในขณะที่ได้รับ ดังนั้นความนิยมของพวกเขา แต่เท่าที่ฉันเป็นแฟนตัวยงของตัวเลือกฉันคิดว่ามันอาจเป็นประโยชน์ที่จะอุทิศส่วนใหญ่ถ้าบทความนี้จะอธิบายสิ่งที่พวกเขาว่าพวกเขาทำงานและบางอย่างที่ร้ายแรงและเป็นที่พึงปรารถนาสำหรับทั้งผู้ถือตัวเลือก บริษัท และ นักลงทุน ในทางทฤษฎีและในโลกที่สมบูรณ์แบบตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ฉันรักแนวคิด: บริษัท ของคุณมอบให้คุณ (ในฐานะพนักงานผู้อำนวยการหรือที่ปรึกษา) เป็นตัวเลือกในการซื้อหุ้นใน บริษัท ตัวเลือกเป็นเพียงสิทธิตามสัญญาที่กำหนดให้กับผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ (optionee) โดยผู้ถือมีสิทธิที่จะเพิกถอนการซื้อหุ้นใน บริษัท บางส่วนได้ในราคาที่กำหนด ตัวอย่างเช่นการรับสมัครงานใหม่ที่ Multiactive Software (TSX: E) จะได้รับ 10,000 ตัวเลือกทำให้เธอสามารถโทรซื้อ Jill ได้ 10,000 หุ้นใน Multiactive ในราคา 3.00 (ราคาซื้อขาย ณ วันที่ให้สิทธิ ) ได้ตลอดเวลาถึง 5 ปี ควรสังเกตว่าไม่มีกฎหรือข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับตัวเลือก เป็นไปตามที่เห็นสมควรและแต่ละข้อตกลงการเลือกหรือการอนุญาตมีความเป็นเอกลักษณ์ โดยทั่วไปแม้ว่า quotrulesquot คือ: 1) จำนวนตัวเลือกที่ได้รับให้กับแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับพนักงานที่ quotvaluequot นี้แตกต่างกันไปอย่างมากจาก บริษัท ไปยัง บริษัท คณะกรรมการหากกรรมการมีการตัดสินใจว่าจะให้มีทางเลือกมากน้อยเพียงใด มีดุลยพินิจมากมาย 2) จำนวนตัวเลือกทั้งหมดที่มีอยู่ในแต่ละช่วงเวลาโดยทั่วไปจะ จำกัด อยู่ที่ 20 จากจำนวนหุ้นที่ออกทั้งหมด (ในกรณี Multiactive มีการออกหุ้นประมาณ 60 ล้านหุ้นซึ่งอาจมีตัวเลือกหุ้นได้ถึง 12 ล้านหุ้น) . ในบางกรณีตัวเลขอาจสูงถึง 30 และในอดีตตัวเลขมีประมาณ 10 - แต่เพิ่มขึ้นเนื่องจากความนิยมของตัวเลือก 3) ทางเลือกจะไม่ได้รับกับ บริษัท - เฉพาะกับคน (แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงบ้างเพื่อให้ บริษัท สามารถให้บริการได้) 4) ราคาการใช้สิทธิ (ราคาที่สามารถซื้อได้) ใกล้เคียงกับราคาซื้อขาย (ตลาด) ณ วันที่ให้สิทธิ NB - แม้ว่า บริษัท ต่างๆสามารถให้ส่วนลดเล็กน้อยได้นั่นคืออาจถึง 10 ปัญหาภาษีอาจเกิดขึ้น (กลายเป็นเรื่องยุ่งยาก) 5) ในทางเทคนิคผู้ถือหุ้นจะต้องอนุมัติตัวเลือกทั้งหมด (โดยปกติจะกระทำโดยการอนุมัติตัวเลือกราคาหุ้น) 6) โดยทั่วไปจะมีผลบังคับใช้เป็นเวลาหลายปีตั้งแต่ 1 ถึง 5 ปี Ive เห็นบางกรณีที่พวกเขาจะถูกต้องสำหรับ 10 ปี (สำหรับ บริษัท เอกชนที่พวกเขาอาจจะถูกต้องตลอดกาลเมื่อพวกเขาได้ตกเป็นตัวเลือกอาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดภาษีฉลาดผ่านที่คนใหม่สามารถนำมาบนเรือแทนเพียง ให้หุ้นที่มีมูลค่าโดยเนื้อเดียวกัน) 7) ตัวเลือกอาจต้องมีการให้คะแนนโดยประมาณ - กล่าวคือถ้าพนักงานได้รับตัวเลือก 10,000 รายการพวกเขาสามารถใช้งานได้เฉพาะเมื่อเวลาผ่านไปเท่านั้นเช่น หนึ่งในสามได้รับตกเป็นของแต่ละปีมากกว่า 3 ปี นี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้คนได้รับประโยชน์ก่อนเวลาอันควรและ cashing ในก่อนจริงๆมีส่วนร่วมกับ บริษัท นี่เป็นดุลพินิจของ บริษัท - ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับระเบียบข้อบังคับ (แต่อาการปวดหัวใหญ่อาจเกิดขึ้นในภายหลังเมื่อมีการใช้ตัวเลือกและเมื่อมีการขายหุ้น) ในสถานการณ์ที่เหมาะสมจิลล์ - ผู้ได้รับคัดเลือกด้านเทคนิคใหม่จาก Multiactive - ได้รับสิทธิในการทำงานของเธอและเนื่องจากความพยายามของเธอและเพื่อนร่วมงานของเธอ, Multiactive ไม่ดีและราคาหุ้นของมันไปถึง 6.00 โดย yearend ตอนนี้ Jill สามารถเลือกตัวเลือกได้เช่นซื้อหุ้นที่ 3.00 แน่นอนว่าเธอไม่ได้มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนอะไหล่ประมาณ 30,000 รายดังนั้นเธอจึงโทรหาโบรกเกอร์ของเธอและอธิบายว่าเธอเป็นผู้เลือก โบรกเกอร์ของเธอจะขายหุ้นจำนวน 10,000 หุ้นให้กับเธอในเวลา 6.00 น. และตามคำแนะนำของเธอส่งให้ บริษัท จำนวน 30,000 หุ้นเพื่อแลกกับหุ้นที่ออกใหม่จำนวน 10,000 หุ้นตามข้อตกลงสิทธิ เธอมีกำไร 30,000 รายซึ่งเป็นโบนัสที่ดีสำหรับความพยายามของเธอ Jill ฝึกซ้อมและขายหุ้นทั้งหมด 10,000 หุ้นของเธอในวันเดียวกัน ความรับผิดทางภาษีของเธอคำนวณจากกำไร 30,000 รายของเธอซึ่งถูกมองว่าเป็นรายได้จากการจ้างงานไม่ใช่กำไรจากเงินทุน เธอถูกเก็บภาษีราวกับว่าเธอได้รับเงินจาก บริษัท (ในความเป็นจริง - บริษัท จะออกใบลดภาษีเงินได้ T4 เดือนกุมภาพันธ์ในเดือนกุมภาพันธ์เพื่อที่เธอจะสามารถจ่ายภาษีได้ในผลตอบแทนประจำปีของเธอ) แต่เธอได้รับการหักเล็กน้อย - เธอได้รับการหักเงินเล็กน้อยซึ่งเท่ากับการเสียภาษีเพียง 50 ของผลกำไรของเธอคือได้รับ 15,000 ของโบนัสฟรี 30,000 รายของเธอ ในเรื่องนี้ผลกำไรของเธอได้รับการปฏิบัติเหมือนการได้รับเงินทุน - แต่ก็ยังถือว่าเป็นรายได้จากการจ้างงาน (เพราะเหตุใด AHA - CCRA เก่าที่ดีมีเหตุผลอ่าน) นี่เป็นวิธีที่ CCRA เห็น ดีและเรียบง่าย และก็มักจะทำงานอย่างนี้ ตัวเลือกหุ้นมักจะเรียกว่าตัวเลือกหุ้น quotIncentive โดยหน่วยงานกำกับดูแลเช่นตลาดหุ้นและพวกเขาจะถูกมองว่าเป็นวิธีการให้รายได้โบนัสแก่พนักงาน พวกเขาไม่ได้เป็นจำนวนมากที่เราต้องการจะมีมันวิธีที่พนักงานจะลงทุนใน บริษัท ของพวกเขา อันนี้อาจเป็นอันตรายอย่างยิ่ง นี่คือตัวอย่างที่แท้จริง - ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีจำนวนมากได้รับมือกับสถานการณ์นี้ เพียงเพื่อให้แน่ใจว่าฉันได้ตรวจสอบกับ folks ดีที่ Deloitte และ Touche และพวกเขายืนยันว่าสถานการณ์นี้สามารถและไม่เกิดขึ้น (บ่อย) จิมเข้าร่วม บริษัท และได้รับ 10,000 ตัวเลือกที่ 1 ใน 5 ปีหุ้นสต็อก 100 (จริงๆ) จิมถล่มเข้าด้วยกัน 10,000 คนและลงทุนใน บริษัท ซึ่งถือครองหุ้นมูลค่า 1 ล้านหุ้น ในอีก 2 ปีข้างหน้าตลาดจะร่วงลงและหุ้นจะไปที่ 10 เขาตัดสินใจที่จะขายทำกำไรได้ 90,000 ราย เขาคิดว่าเขาเป็นหนี้ภาษีใน 90K Poor Jim ในความเป็นจริงเขาเป็นหนี้ภาษี 990k ของรายได้ (1M minus 10K) ในเวลาเดียวกันเขามีเงินทุนสูญเสีย 900K ที่ไม่ได้ช่วยให้เขาเพราะเขาไม่มีกำไรจากเงินทุนอื่น ๆ ดังนั้นตอนนี้เขามีภาษีที่ค้างจ่ายและต้องจ่ายมากกว่า 213K (นั่นคืออัตราส่วนเพิ่ม 43 อยู่ที่ 50 จาก 990K) เขาเป็นบุคคลล้มละลายมากสำหรับการสร้างแรงจูงใจให้กับตัวเลือกหุ้นแรงจูงใจภายใต้กฎเกณฑ์ทางภาษีจุดสำคัญที่ต้องจดจำคือความรับผิดทางภาษีจะได้รับการประเมินในเวลาที่มีการใช้ตัวเลือกไม่ใช่เมื่อหุ้นถูกขายจริง (หมายเหตุ - ในสหรัฐอเมริกาผลประโยชน์จะถูก จำกัด ให้เป็นส่วนที่เกินจากราคาขายมากกว่าราคาการใช้สิทธิในสหรัฐอเมริกาผลประโยชน์จะถูกหักภาษีเป็นกำไรจากเงินทุนถ้าถือครองหุ้นเป็นเวลาหนึ่งปีก่อนที่จะขาย) ให้กลับไป ตัวอย่างของ Jill ซื้อหุ้น Multiactive หาก Jill ต้องการเก็บหุ้นไว้ (คาดหวังให้พวกเขาขึ้นไป) เธอก็ยังคงถูกเก็บภาษีจากผลกำไร 20,000 รายในการคืนภาษีครั้งถัดไปของเธอแม้ว่าจะไม่ได้ขายหุ้นเพียงครั้งเดียวจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้เธอจะต้องจ่ายเงิน ภาษีเป็นเงินสด แต่การเปลี่ยนแปลงงบประมาณของรัฐบาลกลางในปัจจุบันช่วยให้คุณสามารถเลื่อนการชำระภาษีได้จนกว่าจะถึงเวลาที่เธอขายหุ้นจริง (ขึ้นอยู่กับวงเงินรายปีเพียง 100,000 คนเท่านั้นจังหวัดออนแทรีโอมีข้อตกลงพิเศษเพื่อให้พนักงานสามารถดำเนินการได้ มีรายได้ถึง 1 ล้านภาษีฟรี Nice, eh) สมมุติว่าการลดลงของหุ้น (ไม่ใช่ความผิดของเธอ - แค่ตลาดทำหน้าที่ขึ้นมาอีกครั้ง) กลับมาที่ระดับ 3.00 กังวลว่าเธออาจจะไม่มีกำไรเธอขาย เธอคิดว่าเธอเสียแม้กระทั่ง แต่ในความเป็นจริงเธอยังคงเป็นหนี้เกี่ยวกับภาษี 8,600 (สมมติว่ามีอัตรากำไรขั้นต้น 43 เมื่อทำกำไรได้ในขณะที่ออกกำลังกาย) ไม่ดี. แต่จริงยิ่งแย่ลงสมมติว่าหุ้นลดลงเป็น 1.00 ในกรณีนี้เธอมีเงินทุนขาดทุน 5.00 (ค่าใช้จ่ายในการซื้อหุ้น - เพื่อวัตถุประสงค์ทางภาษี - คือราคาตลาด 6.00 ในวันที่ใช้สิทธิ - ไม่ใช่ราคาใช้สิทธิ) แต่เธอสามารถใช้เงินทุน 5.00 นี้กับกำไรทุนอื่น ๆ เธอยังคงได้รับความโล่งใจในใบเรียกเก็บภาษีเดิมของเธอ ฉันสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอไม่ขายหุ้นของเธอความรับผิดทางภาษีของเธอจะถูกเลื่อนออกไปตลอดกาลในทางกลับกันสมมุติว่าโลกสดใสร่าเริงและหุ้นของเธอเพิ่มขึ้นเป็น 9 เท่าในขณะที่เธอขายพวกเขา ในกรณีนี้เธอมีเงินทุนเพิ่มขึ้นในวันที่ 3.00 และตอนนี้เธอต้องจ่ายภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีในต้นฉบับ 30,000 รายของรายได้จากการจ้างงาน อีกครั้งนี้ก็โอเค เนื่องจากผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นจากการได้มาและถือหุ้นพนักงานส่วนใหญ่จึงถูกบังคับให้ขายหุ้นอย่างรวดเร็วในวันที่ใช้สิทธิเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น แต่คุณสามารถจินตนาการถึงผลกระทบต่อราคาหุ้นของ บริษัท ร่วมเมื่อ 5 หรือ 6 บริษัท ที่ได้รับใบอนุญาตมีหุ้นนับร้อยนับหมื่นในตลาดนี้ไม่มีอะไรที่จะช่วยให้พนักงานถือหุ้นของ บริษัท ได้ และมันสามารถเลอะตลาดเพื่อความปลอดภัยการซื้อขายบาง จากมุมมองของนักลงทุนเรามีข้อเสียอย่างมากคือการลดสัดส่วน นี่เป็นเรื่องสำคัญ ในฐานะนักลงทุนคุณต้องจำไว้ว่าโดยเฉลี่ยแล้วหุ้นสามัญใหม่จำนวน 20 หุ้นจะสามารถออก (optimum) ให้แก่ optionees ได้ จากมุมมองของ บริษัท การให้สิทธิประจำตัวและการใช้ตัวเลือกต่างๆที่ตามมาสามารถผสมผสานความสมดุลของยอดคงค้างได้อย่างรวดเร็ว การเพิ่มขึ้นของมูลค่าหุ้นของ บริษัท ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในทางทฤษฎีราคาหุ้นอาจจะลดลงเล็กน้อยเมื่อมีการออกหุ้นใหม่ อย่างไรก็ตามหุ้นใหม่เหล่านี้สามารถดูดซึมได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดร้อน ในฐานะนักลงทุนคุณสามารถหาทางเลือกที่โดดเด่นของ บริษัท ได้ไม่ง่ายไม่ใช่เรื่องง่ายไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับการปรับปรุงเป็นประจำ วิธีที่เร็วที่สุดคือการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดของ บริษัท ประจำปี (มีอยู่ใน sedar) นอกจากนี้คุณควรจะสามารถหาวิธีการได้รับสิทธิประโยชน์มากมายจากผู้รายงานภายใน แต่น่าเสียดายและไม่น่าเชื่อถือเสมอไป ทางออกที่ดีที่สุดของคุณคือสมมติว่าคุณจะได้รับการเจือจางอย่างน้อย 20 ทุกๆสองปี ความเชื่อที่ว่าตัวเลือกจะดีกว่าโบนัสของ บริษัท เพราะเงินสดมาจากตลาดมากกว่าจากกระแสเงินสดของ บริษัท เป็นเรื่องไร้สาระ ผลกระทบที่เกิดจากการลดลงของระยะยาวอยู่ในระดับที่สูงขึ้นโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบทางลบต่อกำไรต่อหุ้น ฉันขอแนะนำให้ผู้บริหารของ บริษัท จำกัด ตัวเลือกหุ้นสูงสุดไม่เกิน 15 ทุนที่ออกและเพื่อให้มีการหมุนเวียนอย่างน้อย 3 ปีกับการจัดเก็บหนี้รายปีในสถานที่ การให้สิทธิ์ประจำปีจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าพนักงานที่ได้รับทางเลือกจะเพิ่มมูลค่า คำว่า optionaire ถูกใช้เพื่ออธิบายตัวเลือกผู้โชคดีที่มีตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เมื่อตัวเลือกเหล่านี้กลายเป็นเศรษฐีที่แท้จริงผู้จัดการ บริษัท ต้องถามตัวเองว่าการจ่ายเงินรางวัลของพวกเขาเป็นจริงหรือไม่ ทำไมเลขานุการควรได้รับโบนัสครึ่งล้านเหรียญเพียงเพราะเธอมีตัวเลือก 10,000 quottokenquot สิ่งที่เธอมีความเสี่ยงและสิ่งที่เกี่ยวกับผู้จัดการเศรษฐีที่รวยทันทีที่ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตและออกจากงานของพวกเขานี้ยุติธรรมกับผู้ลงทุนกฎตัวเลือกหุ้นกฎระเบียบ ปัญหาด้านการจัดเก็บภาษีที่เกิดขึ้นมีความซับซ้อนมาก นอกจากนี้ยังมีความแตกต่างอย่างมากในการรักษาภาษีระหว่าง บริษัท เอกชนกับ บริษัท มหาชน นอกจากนี้กฎมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แนะนำให้ตรวจสอบกับที่ปรึกษาด้านภาษีเป็นประจำ ดังนั้นสิ่งที่บรรทัดล่างในขณะที่ตัวเลือกที่ดีเช่นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตผมคิดว่าพวกเขาจะต้องได้รับในการกลั่นกรอง เท่าที่ตัวเลือกหุ้นสามารถเป็นแครอทที่ดีในการดึงดูดความสามารถพวกเขายังสามารถ backfire เป็นภาพพื้นหลังพื้นเห็นในตัวอย่างข้างต้น และในกรณีที่พวกเขาบรรลุเป้าหมายของพวกเขาจริงๆนักลงทุนอาจจะเถียงว่าการที่จะเกิดความรู้สึกไม่ถูกต้องและอาจเป็นการลงโทษกับผู้ถือหุ้น ไมค์โวลเคอร์เป็นผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานอุตสาหกรรมมหาวิทยาลัยที่ Simon Fraser University ประธานแวนคูเวอร์เอ็นเตอร์ไพรส์ฟอรั่มและผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี Copyright 2000-2003 Michael C. Volker อีเมล: mikevolker. org - ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจะได้รับการชื่นชมอัปเดต: 0305277 คำถามทั่วไปเกี่ยวกับตัวเลือกสตาร์ทพนักงานของ Startup Jim Wulforst เป็นประธานฝ่ายบริการทางการเงินของ ETRADE ซึ่งให้บริการโซลูชั่นการบริหารแผนสต็อกพนักงานแก่ทั้งภาครัฐและเอกชนรวมถึง 22 แห่งของ SampP 500 บางทีคุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับเศรษฐีของ Google พนักงาน 1,000 คนแรกของ บริษัท (รวมถึงหมอนวดของ บริษัท ) ที่ได้รับความมั่งคั่งของพวกเขาผ่านตัวเลือกหุ้นของ บริษัท เรื่องที่ยอดเยี่ยม แต่น่าเสียดายที่ตัวเลือกหุ้นทั้งหมดไม่ได้มีความสุขในตอนจบ ตัวอย่างเช่นสัตว์เลี้ยงและ Webvan ล้มละลายหลังจากการเสนอขายหุ้นครั้งแรกที่มีรายละเอียดสูงทำให้เงินทุนสต็อกหมดไป ตัวเลือกหุ้นอาจเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง แต่มูลค่าที่อยู่เบื้องหลังข้อเสนอพิเศษอาจแตกต่างกันไปมาก มีเพียงการค้ำประกันไม่เป็น ดังนั้นไม่ว่าคุณจะกำลังพิจารณาข้อเสนองานที่มีการให้หุ้นหรือคุณถือสต็อกเป็นส่วนหนึ่งของค่าตอบแทนในปัจจุบันของคุณสิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจพื้นฐาน แผนผังหุ้นจะอยู่ที่ใดและจะทำงานอย่างไรฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อใดควรถือครองหรือขายผลกระทบทางภาษีคืออะไรฉันควรจะคิดอย่างไรเกี่ยวกับการชดเชยหุ้นหรือตราสารทุนเมื่อเทียบกับค่าตอบแทนทั้งหมดของฉันและเงินออมและการลงทุนอื่น ๆ ฉันอาจมี 1 ชนิดที่พบมากที่สุดของการเสนอขายหุ้นของพนักงานเป็นสองส่วนใหญ่เสนอหุ้นของพนักงานเป็นตัวเลือกหุ้นและหุ้นที่ จำกัด พนักงานตัวเลือกหุ้นเป็นส่วนใหญ่ในหมู่ บริษัท เริ่มต้น ตัวเลือกให้โอกาสในการซื้อหุ้นของ บริษัท ของคุณในราคาที่ระบุซึ่งโดยปกติจะเรียกว่าราคาการประท้วง สิทธิ์ในการซื้อหรือใช้ตัวเลือกหุ้นจะขึ้นอยู่กับช่วงเวลาการมีอำนาจซึ่งกำหนดเวลาที่คุณสามารถใช้ตัวเลือกได้ ลองใช้ตัวอย่าง สมมติว่าคุณได้รับ 300 ตัวเลือกโดยมีราคาการประท้วง 10 ครั้งที่ให้คะแนนเท่ากันในช่วงระยะเวลาสามปี ในตอนท้ายของปีแรกคุณจะมีสิทธิที่จะใช้หุ้น 100 หุ้นต่อหุ้น 10 หุ้น ถ้าในตอนนั้นราคาหุ้นของ บริษัท เพิ่มขึ้นเป็น 15 บาทต่อหุ้นคุณมีโอกาสที่จะซื้อหุ้นต่ำกว่าราคาตลาด 5 อันซึ่งหากคุณออกกำลังกายและขายพร้อมกันแสดงถึงกำไรก่อนหักภาษี 500 รายการ เมื่อสิ้นปีที่สองจะมีหุ้นเพิ่มอีก 100 หุ้น ตอนนี้ในตัวอย่างของเราช่วยบอกว่าราคาหุ้นของ บริษัท ลดลงเหลือ 8 บาทต่อหุ้น ในสถานการณ์สมมตินี้คุณจะไม่ใช้ตัวเลือกของคุณเนื่องจากคุณต้องจ่ายเงิน 10% สำหรับสิ่งที่คุณสามารถซื้อได้ในตลาดเปิด 8 แห่ง คุณอาจได้ยินเรื่องนี้เรียกว่าตัวเลือกที่จะออกจากเงินหรือใต้น้ำ ข่าวดีก็คือการสูญเสียอยู่บนกระดาษเป็นคุณไม่ได้ลงทุนเงินสดจริง คุณมีสิทธิ์ที่จะใช้หุ้นและสามารถติดตามราคาหุ้นของ บริษัท ได้ หลังจากนั้นคุณอาจเลือกที่จะดำเนินการหากราคาตลาดสูงกว่าราคาการประท้วงหรือเมื่อได้รับเงินคืน ในตอนท้ายของปีที่สามหุ้น 100 หุ้นสุดท้ายจะมีสิทธิและถือเป็นหุ้นสามัญได้ การตัดสินใจของคุณจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการรวมถึง แต่ไม่ จำกัด เพียงราคาตลาดของหุ้น เมื่อคุณใช้ตัวเลือกที่มีอยู่แล้วคุณสามารถขายหุ้นได้ทันทีหรือถือครองหุ้นเหล่านั้นเป็นส่วนหนึ่งของหุ้นของคุณ ทุนสต็อกที่ จำกัด (ซึ่งอาจรวมถึงรางวัลหรือหน่วยงาน) ให้สิทธิแก่พนักงานในการรับหุ้นโดยมีค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย เช่นเดียวกับตัวเลือกหุ้นการถือหุ้นที่ จำกัด จะขึ้นอยู่กับช่วงเวลาการให้สิทธิโดยปกติแล้วจะผูกติดกับระยะเวลาหรือความสำเร็จของเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องรอระยะเวลาหนึ่งหรือปฏิบัติตามเป้าหมายบางอย่างก่อนที่คุณจะได้รับสิทธิ์ในการได้รับหุ้น โปรดจำไว้ว่าการให้สิทธิ์ในการให้หุ้นทุนที่ จำกัด เป็นกิจกรรมที่ต้องเสียภาษี ซึ่งหมายความว่าภาษีจะต้องจ่ายตามมูลค่าหุ้นในเวลาที่พวกเขาได้รับ นายจ้างของคุณตัดสินใจเลือกตัวเลือกการชำระภาษีที่คุณสามารถใช้ได้ซึ่งอาจรวมถึงการจ่ายเงินสดการขายหุ้นบางส่วนหรือนายจ้างของคุณระงับหุ้นบางส่วน 2. อะไรคือความแตกต่างระหว่างตัวเลือกหุ้นที่มีแรงจูงใจและไม่ผ่านการรับรองซึ่งเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างซับซ้อนซึ่งเกี่ยวข้องกับรหัสภาษีปัจจุบัน ดังนั้นคุณควรปรึกษาที่ปรึกษาด้านภาษีของคุณเพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์ส่วนบุคคลของคุณให้ดียิ่งขึ้น ความแตกต่างส่วนใหญ่อยู่ในวิธีที่ทั้งสองเสียภาษี ตัวเลือกหุ้นสต็อกมีสิทธิ์ได้รับการยกเว้นภาษีโดยกรมสรรพากรหมายความว่าโดยทั่วไปแล้วภาษีต่างๆจะไม่ได้รับการชำระเมื่อมีการใช้ตัวเลือกเหล่านี้ กำไรและขาดทุนที่เกิดขึ้นอาจถือเป็นกำไรหรือขาดทุนในระยะยาวถ้าถือไว้นานกว่าหนึ่งปี ในทางกลับกันทางเลือกที่ไม่ผ่านการรับรองอาจส่งผลให้เกิดรายได้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้เมื่อมีการใช้สิทธิ ภาษีขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างราคาการใช้สิทธิกับมูลค่าตลาดยุติธรรมในขณะที่ใช้สิทธิ การขายที่เกิดขึ้นภายหลังอาจส่งผลให้เกิดการเพิ่มหรือลดทุนในระยะสั้นหรือระยะยาวขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่จัดขึ้น 3. ภาษีเกี่ยวกับภาษีการจัดเก็บภาษีสำหรับแต่ละรายการจะขึ้นอยู่กับประเภทของตัวเลือกหุ้นที่คุณเป็นเจ้าของและตัวแปรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ของคุณ ก่อนที่คุณจะใช้ตัวเลือกและขายหุ้นคุณจะต้องพิจารณาผลของการทำธุรกรรมอย่างรอบคอบ สำหรับคำแนะนำเฉพาะคุณควรปรึกษาที่ปรึกษาด้านภาษีหรือนักบัญชี 4. ฉันจะทราบได้อย่างไรว่าจะถือหรือขายหลังจากที่ฉันออกกำลังกายเมื่อพูดถึงตัวเลือกหุ้นของพนักงานและหุ้นการตัดสินใจที่จะถือหรือขายเดือดลงไปที่พื้นฐานของการลงทุนในระยะยาว ถามตัวคุณเองว่า: ความเสี่ยงเท่าใดผมยินดีที่จะใช้ผลงานของฉันมีความหลากหลายขึ้นอยู่กับความต้องการและเป้าหมายในปัจจุบันของฉันการลงทุนนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางการเงินโดยรวมของคุณการตัดสินใจถือหุ้นหรือขายหุ้นบางส่วนหรือทั้งหมดของคุณควรเป็นอย่างไร พิจารณาคำถามเหล่านี้ หลายคนเลือกสิ่งที่เรียกว่าการขายในวันเดียวกันหรือการออกกำลังกายแบบไร้เงินสดที่คุณใช้ตัวเลือกที่ตกเป็นเหยื่อของคุณและขายหุ้นพร้อม ๆ กัน การดำเนินการนี้จะช่วยให้คุณเข้าถึงรายได้ที่แท้จริงของคุณ (ผลกำไรคอมมิชชั่นที่เกี่ยวข้องน้อยลงค่าธรรมเนียมและภาษี) หลาย บริษัท ให้บริการเครื่องมือต่างๆที่ช่วยวางแผนแบบจำลองของผู้เข้าร่วมล่วงหน้าและประมาณการรายได้จากการทำธุรกรรมโดยเฉพาะ ในทุกกรณีคุณควรปรึกษาที่ปรึกษาด้านภาษีหรือผู้วางแผนทางการเงินเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินส่วนบุคคลของคุณ 5. ฉันเชื่อมั่นในอนาคตของ บริษัท หุ้นของคุณควรเป็นของตัวเองดีแค่ไหนที่มีความเชื่อมั่นในนายจ้างของคุณ แต่คุณควรพิจารณาพอร์ตการลงทุนทั้งหมดและกลยุทธ์การกระจายการลงทุนโดยรวมเมื่อคิดถึงการลงทุนรวมถึงหุ้นของ บริษัท โดยทั่วไปแล้วดีที่สุดที่จะไม่ได้มีผลงานที่เป็นมากเกินไปขึ้นอยู่กับการลงทุนอย่างใดอย่างหนึ่ง 6 ฉันทำงานสำหรับการเริ่มต้นเอกชน หาก บริษัท นี้ไม่เคยเข้าสู่สาธารณะหรือซื้อโดย บริษัท อื่นก่อนที่จะเผยแพร่ต่อสาธารณะสิ่งที่เกิดขึ้นกับสต็อกไม่มีคำตอบเดียวนี้ คำตอบมักถูกกำหนดไว้ในข้อกำหนดของแผนหุ้นของ บริษัท และหรือเงื่อนไขการทำธุรกรรม หาก บริษัท ยังคงเป็น บริษัท เอกชนอาจมีโอกาส จำกัด ที่จะขายหุ้นที่มีสิทธิได้หรือไม่ จำกัด แต่จะแตกต่างกันตามแผนและ บริษัท ตัวอย่างเช่น บริษัท เอกชนอาจอนุญาตให้พนักงานขายสิทธิในการได้รับสิทธิในตลาดรองหรือตลาดอื่น ๆ ในกรณีของการซื้อผู้ซื้อบางรายจะเร่งกำหนดการให้สิทธิ์และจ่ายเงินให้แก่ผู้ถือสิทธิทั้งหมดในราคาที่แตกต่างกันระหว่างราคาการประท้วงและราคาหุ้นซื้อในขณะที่ผู้ซื้อรายอื่นอาจเปลี่ยนหุ้นที่ไม่ได้รับการเสนอราคาเป็นแผนหุ้นใน บริษัท ที่ได้มา อีกครั้งจะแตกต่างกันไปตามแผนและธุรกรรม 7. ฉันยังคงมีคำถามมากมาย ฉันจะเรียนรู้เพิ่มเติมได้หรือไม่ผู้จัดการหรือบุคคลในแผนกทรัพยากรบุคคลของ บริษัท ของคุณสามารถให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนงานของ บริษัท และผลประโยชน์ที่คุณมีคุณสมบัติตามแผน นอกจากนี้คุณควรปรึกษากับผู้วางแผนด้านการเงินหรือที่ปรึกษาด้านภาษีเพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจว่าการให้เงินทุนหุ้นกิจกรรมการให้สิทธิการออกกำลังกายและการขายมีผลต่อสถานการณ์ทางภาษีส่วนบุคคลของคุณอย่างไรบ้าง (ก) บทนำ: มาตรา 62 (1) (b) แห่งพระราชบัญญัติ บริษัท พ. ศ. 2556 ระบุว่าเมื่อใดก็ตามที่ บริษัท ที่มีทุนเพิ่มทุนเสนอเพิ่มทุนจดทะเบียนโดยการออกหุ้นเพิ่มเติมให้เสนอขายแก่พนักงานตาม โครงการสิทธิพิเศษในหุ้นของพนักงานจำนวน 821 รายซึ่งจะต้องได้รับการอนุมัติเป็นพิเศษจาก บริษัท และอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้ 8220Employees8217 Option 8221 สิทธิในการซื้อหุ้นหมายถึงตัวเลือกให้แก่กรรมการพนักงานหรือลูกจ้างของ บริษัท หรือ บริษัท ที่ถือครองหรือ บริษัท ย่อยหรือ บริษัท อื่นใดที่มีอำนาจมอบฉันทะให้แก่กรรมการพนักงานหรือลูกจ้างสิทธิประโยชน์หรือสิทธิในการซื้อ สำหรับหุ้นของ บริษัท ณ วันที่ในอนาคตด้วยราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้ามาตรา 2 (37) มาตรา 42 (2) แห่งพระราชบัญญัติ บริษัท ฯ พ. ศ. 2556 ให้เสนอการเสนอขายหลักทรัพย์หรือคำเชิญให้จองซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าว จำนวนคนไม่เกินห้าสิบหรือจำนวนที่เกินกำหนดตามที่กำหนดในแต่ละปีงบการเงินรวม 200 รายตามกฎข้อ 14 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ. ศ. 2535 (ไม่รวมผู้ซื้อสถาบันที่มีคุณสมบัติและพนักงานของ (ข) ของส่วนย่อย (1) ของส่วนที่ 62) ในปีการเงินและเงื่อนไขดังกล่าว (รวมทั้งแบบฟอร์มและแบบฟอร์ม ผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นส่วนตัว) ตามที่กำหนด คำอธิบายกฎข้อ 13 ของกฎระเบียบของ บริษัท (หุ้นและหุ้นกู้) ในปี พ. ศ. 2557 ยังระบุด้วยว่า 8216Preferential Offer8217 หมายถึงการออกหุ้นหรือหลักทรัพย์อื่น ๆ โดย บริษัท หนึ่ง ๆ ให้แก่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่เลือกโดยไม่ได้รับความยินยอมและไม่รวมหุ้นหรือ หลักทรัพย์อื่นที่เสนอผ่านโครงการตัวเลือกหุ้นของพนักงานโครงการซื้อหุ้นของพนักงาน มาตรา 197 (7) แห่งพระราชบัญญัติ บริษัท พ. ศ. 2556 ระบุว่าแม้จะมีบทบัญญัติอื่นใดในพระราชบัญญัตินี้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบทบัญญัติแห่งมาตรานี้กรรมการอิสระจะไม่มีสิทธิเลือกหุ้นและอาจได้รับค่าตอบแทนโดยวิธี (5) การจ่ายเงินค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการและการประชุมอื่น ๆ และค่าเบี้ยประชุมตามที่ได้รับอนุมัติจากสมาชิก (ข) ตามขั้นตอนการปฏิบัติตามข้อเสนอของบริษัทจำกัดในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ ESOS ตามข้อ 12 ของกฎเกณฑ์ของ บริษัท (หุ้นทุนและหุ้นกู้) ในปีพศ. 2557 กำหนดให้ บริษัท อื่นที่ไม่ใช่ บริษัท จดทะเบียนไม่ต้องปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ของแนวทางการคัดเลือกหุ้นของพนักงานของอินเดียในปัจจุบันนี้เป็นข้อบังคับของ SEBI (Share Based Employee Benefits) 2014 จะต้องไม่มีการเสนอขายหุ้นให้แก่พนักงานภายใต้โครงการพนักงานของ 827 พนักงาน (ต่อไปนี้จะเรียกว่า 8220Employees Stock Option Scheme8221) เว้นแต่จะเป็นไปตามข้อกำหนดต่อไปนี้ (1) โครงการที่จะได้รับการอนุมัติโดยการลงมติพิเศษ: โครงการ Employee Stock Option Scheme ของ บริษัท ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ บริษัท โดยผ่านมติพิเศษ คำอธิบาย: เพื่อวัตถุประสงค์ของข้อ (b) ของส่วนย่อย (1) ในส่วนที่ 62 และกฎนี้ 8220Employee8221 หมายถึง (ก) พนักงานถาวรของ บริษัท ที่ทำงานในอินเดียหรือนอกประเทศอินเดียหรือ (ข) กรรมการของ ไม่ว่าจะเป็นกรรมการที่มีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ แต่ไม่รวมกรรมการอิสระหรือ (ค) พนักงานตามที่กำหนดไว้ในข้อ (ก) หรือ (ข) ของ บริษัท ย่อยแห่งหนึ่งในประเทศอินเดียหรือนอกประเทศอินเดียหรือ บริษัท ที่ถือหุ้นของ บริษัท แต่ไม่รวมถึง (i) พนักงานที่เป็นผู้ก่อการหรือบุคคลที่อยู่ในกลุ่มผู้ก่อการหรือ (ii) กรรมการที่ตนเองหรือญาติพี่น้องหรือบุคคลใด ๆ โดยทางตรงหรือทางอ้อมถือหุ้นเกินกว่า 10 คน หุ้นทุนที่โดดเด่นของ บริษัท (2) การเปิดเผยข้อมูลในคำอธิบายเพิ่มเติม: บริษัท จะเปิดเผยข้อมูลดังต่อไปนี้ไว้ในแถลงการณ์ที่แนบมาพร้อมกับหนังสือแจ้งมติ (ก) จำนวนหุ้นทั้งหมดที่จะได้รับ (ข) การระบุ (ง) ข้อกำหนดของการให้สิทธิและระยะเวลาการได้รับสิทธิ (จ) ระยะเวลาสูงสุดที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับ (ซ) ระยะเวลาการใช้สิทธิและระยะเวลาการใช้สิทธิ (ช) ระยะเวลาการล็อคถ้ามี (i) จำนวนตัวเลือกสูงสุดที่จะได้รับ ต่อพนักงานและรวม (ญ) วิธีการที่ บริษัท ใช้ในการกำหนดมูลค่าทางเลือก (k) เงื่อนไขที่ตัวเลือกที่ตกเป็นของพนักงานอาจหมดลงเช่น ในกรณีที่เลิกจ้างเนื่องจากการประพฤติผิดจรรยาบรรณ (l) ระยะเวลาที่กำหนดภายในลูกจ้างจะต้องใช้สิทธิในกรณีที่มีการบอกเลิกการจ้างงานหรือการลาออกของพนักงานและ (ม) แถลงการณ์ว่า บริษัท ต้อง เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีที่บังคับใช้ (3) ราคาการใช้สิทธิอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามนโยบายการบัญชีที่ใช้บังคับ: บริษัท ที่ให้สิทธิแก่พนักงานตามโครงการ Employee Stock Option Scheme จะมีสิทธิในการกำหนดราคาใช้สิทธิตามนโยบายการบัญชีที่เหมาะสม (ถ้ามี) จะต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในกรณีที่ (ก) ให้สิทธิแก่พนักงานของ บริษัท ย่อยหรือ บริษัท ที่ถือครองหรือ (ข) ให้ (ไม่รวมใบสำคัญแสดงสิทธิและใบสำคัญแสดงสิทธิคงเหลือ) ของ บริษัท ในขณะที่ได้รับเลือก (5) ข้อกำหนดของ ESOS ที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิอาจมีการเปลี่ยนแปลงเฉพาะในลักษณะที่ไม่เป็นอันตรายโดยการผ่านมติพิเศษ: บริษัท อาจมีมติพิเศษเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของโครงการสิทธิในการเลือกพนักงานที่พนักงานยังไม่ได้ใช้ เพื่อประโยชน์ของผู้ถือสิทธิ การแจ้งให้ทราบเพื่อให้ความละเอียดเป็นพิเศษสำหรับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบโครงการ Employee Stock Option Scheme จะต้องเปิดเผยรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดเหตุผลและรายละเอียดของพนักงานที่เป็นผู้รับผลประโยชน์จากรูปแบบดังกล่าว (6) จะต้องมีระยะเวลาอย่างน้อยหนึ่งปีระหว่างการให้สิทธิและสิทธิในการเลือกและ บริษัท เพื่อให้มีเสรีภาพในการระบุระยะเวลาในการปิดบัญชี: ต้องมีระยะเวลาอย่างน้อยหนึ่งปีระหว่างการให้สิทธิและการให้สิทธิ อย่างไรก็ตามในกรณีที่ บริษัท ได้รับเลือกให้เป็น บริษัท ภายใต้โครงการ Employee Stock Option Scheme แทนตัวเลือกที่ถือครองโดยบุคคลเดียวกันภายใต้โครงการ Employee Stock Option ใน บริษัท อื่นซึ่งรวมหรือควบ บริษัท กับ บริษัท ที่กล่าวถึงเป็นแห่งแรกเป็นระยะเวลาที่ บริษัท ทางเลือกที่ได้รับจาก บริษัท ควบรวมกิจการหรือ บริษัท ควบ บริษัท จะต้องมีการปรับระยะเวลาการได้รับสิทธิขั้นต่ำตามที่กำหนดไว้ในข้อนี้ บริษัท จะมีอิสระในการระบุระยะเวลาการล็อคของหุ้นที่ออกตามการใช้สิทธิ (6.1.) ไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผลหรือสิทธิในการออกเสียงในการใช้สิทธิ: พนักงานจะไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผลหรือให้คะแนนหรือในลักษณะใดก็ได้รับผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นตามสิทธิที่ได้รับ หุ้นซื้อคืนเมื่อทวงถาม (7) จำนวนเงินที่ต้องชำระในขณะที่ให้สิทธิอาจถูกริบหรือคืนเงินแล้วแต่กรณีโดย บริษัท : จำนวนที่พนักงานจะจ่ายให้ในวันที่ให้สิทธิ (ก) อาจ ริบโดย บริษัท หากพนักงานไม่ออกกำลังกายภายในระยะเวลาการใช้สิทธิหรือ (ข) อาจได้รับเงินคืนให้กับพนักงานหากไม่ได้รับสิทธิในการเลือกปฏิบัติเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการให้สิทธิตามข้อ โครงการ Employee Stock Option Scheme (8) ความสามารถในการโอนเปลี่ยนมือได้ ฯลฯ (a) การให้สิทธิแก่พนักงานไม่สามารถโอนให้แก่บุคคลอื่นได้ (ข) ตัวเลือกที่ให้แก่ลูกจ้างจะต้องไม่จำนำยืมจำนองหรือกระทำการใด ๆ โดยวิธีอื่นใด (ค) ภายใต้ข้อ (d) ไม่มีบุคคลอื่นใดที่ไม่ใช่พนักงานที่ได้รับเลือกตัวเลือกนี้จะมีสิทธิ์ใช้ตัวเลือกนี้ (d) ในกรณีที่พนักงานเสียชีวิตขณะอยู่ในสถานที่ทำงานตัวเลือกทั้งหมดที่ให้แก่เขาจนถึงวันดังกล่าวจะต้องตกเป็นกรรมสิทธิ์ของทายาทตามกฎหมายหรือผู้ได้รับการเสนอชื่อของผู้ตาย (e) ในกรณีที่พนักงานประสบกับความสามารถในการทำงานอย่างถาวรในขณะที่อยู่ในสถานที่ทำงานตัวเลือกทั้งหมดที่มอบให้แก่เขาในวันที่เกิดการไร้ความสามารถถาวรจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ในตัวเขาในวันนั้น (f) ในกรณีที่ลาออกหรือเลิกจ้างงานตัวเลือกทั้งหมดที่มิได้ตกเป็นของลูกจ้างในวันนั้นจะหมดอายุลง อย่างไรก็ตามพนักงานสามารถใช้ตัวเลือกที่ได้รับให้แก่เขาซึ่งตกเป็นกรรมสิทธิ์ภายในระยะเวลาที่ระบุในนามสกุลนี้ภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขภายใต้โครงการที่ให้สิทธิ์ดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการ (9) การเปิดเผยข้อมูลในรายงานของคณะกรรมการ: คณะกรรมการจะเปิดเผยในรายงานประจำปีของคณะกรรมการ 827 ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ของโครงการ Employee Stock Option: (ก) สิทธิที่ได้รับ (ข) สิทธิที่ได้รับ (ค) (ง) จำนวนหุ้นที่เกิดจากการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (จ) การใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ (ซ) การใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ (ซ) จำนวนตัวเลือกที่มีผลบังคับ (ญ) รายละเอียดของพนักงานที่ชาญฉลาดเกี่ยวกับตัวเลือกที่ได้รับ: (i) ผู้บริหารที่สำคัญ (ii) พนักงานคนอื่น ๆ ที่ได้รับสิทธิในการเลือกปีละหนึ่งครั้งหรือคิดเป็นร้อยละห้าหรือมากกว่านั้นในปีนั้น ๆ (3) ระบุพนักงานที่ได้รับสิทธิในปีใดปีหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของทุนที่ออก (ไม่รวมใบสำคัญแสดงสิทธิและใบสำคัญแสดงสิทธิคงเหลือ) ของ บริษัท ในขณะที่ได้รับ (10) บริษัท จัดทำทะเบียน ESOS ตามแบบที่กำหนด: (ก) บริษัท จะต้องมีใบทะเบียนพนักงานของ บริษัท ตามแบบเลขที่ SH.6 และจะต้องกรอกรายละเอียดของตัวเลือกที่ได้รับตามข้อ (b) ของอนุวรรค (1) ของมาตรา 62 (ข) จะต้องมีการเก็บรักษาสมุดทะเบียนพักการทำงานของพนักงานไว้ในสำนักงานที่จดทะเบียนของ บริษัท หรือสถานที่อื่นใดที่คณะกรรมการกำหนด (ค) รายการในทะเบียนต้องได้รับการรับรองความถูกต้องโดยเลขานุการ บริษัท ของ บริษัท หรือบุคคลอื่นที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการเพื่อวัตถุประสงค์ CA Kamal Garg มีส่วนได้เสียในวิชาชีพและวิชาการใน IFRS, บัญชี, Auditing และ Corporate Laws arenas เขาสามารถเข้าหาได้ที่ cakamalgarggmail) (บทความข้างต้นเป็นส่วนของ CA Kamal Garg ที่มีส่วนได้เสียในวิชาชีพและวิชาการใน IFRS , บัญชีการตรวจสอบและกฎหมายของ บริษัท โดยสิ้นเชิงเขาสามารถเข้าหาได้ที่ cakamalgarggmail) อ่านบทความอื่น ๆ ที่เขียนขึ้นโดย CA Kamal GargHome 187 187 บทความวิธีการเลือกแผนธุรกิจของพนักงานสำหรับ บริษัท ของคุณ บริษัท หลายแห่งที่เราพบมีความคิดที่ดีงามในสิ่งที่ชนิดของ แผนการเป็นเจ้าของพนักงานที่พวกเขาต้องการใช้โดยปกติจะขึ้นอยู่กับความต้องการและเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง อย่างไรก็ตามบางครั้งพวกเขาอาจได้รับการบริการที่ดีขึ้นโดยการวางแผนหุ้นชนิดอื่น และคนอื่น ๆ บอกว่าพวกเขาต้องการมีแผนการเป็นเจ้าของพนักงาน แต่พวกเขาไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นยังไง บทความนี้จะเริ่มต้นเส้นทางสู่การเลือกและใช้แผนหรือแผนการที่เหมาะสมกับ บริษัท ของคุณมากที่สุด แผนสำหรับการเป็นเจ้าของพนักงานแบบ Broad-Based ขอให้เราเริ่มต้นด้วยการทบทวนความเป็นไปได้หลัก ๆ สำหรับการเป็นเจ้าของพนักงานในวงกว้าง แผนกว้างเป็นหนึ่งในที่พนักงานส่วนใหญ่หรือทั้งหมดสามารถมีส่วนร่วม (หมายเหตุสำหรับผู้อ่านที่ไม่ใช่ชาวอเมริกันเช่นเดียวกับทุกสิ่งทุกอย่างในไซต์นี้คือโครงการเฉพาะของสหรัฐฯ) แผนกรรมสิทธิ์หุ้นของพนักงาน (ESOP) เป็นแผนสวัสดิการพนักงานที่ได้รับการรับรองโดยผู้เอาประกันภัยซึ่งส่วนใหญ่หรือทั้งหมดของสินทรัพย์ได้รับการลงทุน ในสต็อกของนายจ้าง เช่นเดียวกับโครงการแบ่งปันผลกำไรและแผน 401 (k) ที่มีกฎหมายเดียวกันหลายฉบับ ESOP ต้องมีอย่างน้อยที่สุดพนักงานที่ทำงานเต็มเวลาตามอายุและความต้องการในการให้บริการบางอย่าง พนักงานไม่ได้ซื้อหุ้นใน ESOP บริษัท มีส่วนแบ่งการถือหุ้นของตนเองในการวางแผนจ่ายเงินสดเพื่อซื้อหุ้นของตัวเอง (มักจะมาจากเจ้าของเดิม) หรือโดยทั่วไปมีแผนจะกู้เงินเพื่อซื้อหุ้นและ บริษัท จะชำระคืนเงินกู้ การใช้งานเหล่านี้มีประโยชน์ทางภาษีอย่างมากสำหรับ บริษัท พนักงานและผู้ขาย พนักงานจะค่อยๆรับเงินในบัญชีของตนและได้รับผลประโยชน์เมื่อออกจาก บริษัท (แม้ว่าอาจมีการแจกจ่ายก่อนหน้านี้) ใกล้พนักงานกว่า 13 ล้านคนในกว่า 7,000 บริษัท ซึ่งส่วนใหญ่มีส่วนร่วมในโครงการ ESOPs แผนสิทธิหุ้นให้สิทธิแก่พนักงานในการซื้อหุ้นของ บริษัท ในราคาที่ระบุในช่วงระยะเวลาที่กำหนดเมื่อได้รับสิทธิ ดังนั้นหากพนักงานได้รับตัวเลือกที่ 100 หุ้นที่ 10 และราคาหุ้นขึ้นไป 20 พนักงานสามารถใช้ตัวเลือกและซื้อหุ้น 100 หุ้นที่ 10 แต่ละขายในตลาดสำหรับ 20 แต่ละและกระเป๋าแตกต่าง แต่ถ้าราคาหุ้นไม่สูงเกินกว่าราคาสิทธิพนักงานจะไม่ใช้ตัวเลือกนี้ ตัวเลือกหุ้นสามารถมอบให้กับพนักงานเพียงไม่กี่คนหรือน้อยได้ตามที่คุณต้องการ ประมาณ 9 ล้านคนในหลายพัน บริษัท ทั้งของภาครัฐและเอกชนมีหุ้นอยู่ในปัจจุบัน รูปแบบอื่นของแผนการลงทุนส่วนบุคคล: หุ้นที่มีการจํากัดจะให้สิทธิพนักงานในการได้มาซึ่งหุ้นซึ่งเป็นของกำนัลหรือซื้อด้วยมูลค่าที่ลดลง พวกเขาสามารถครอบครองหุ้นได้ แต่เมื่อมีข้อ จำกัด บางอย่างตามปกติแล้วจะได้รับสิทธิการได้รับสิทธิ์ หุ้น Phantom จ่ายเงินสดหรือหุ้นในอนาคตเท่ากับมูลค่าของหุ้นที่ต้องการ เมื่อได้รับรางวัลหุ้น fantant ในรูปแบบของหุ้นพวกเขาจะเรียกว่าหน่วยหุ้นที่ จำกัด สิทธิในการขึ้นราคาหุ้นให้สิทธิในการเพิ่มมูลค่าของจำนวนหุ้นที่กำหนดซึ่งโดยปกติจะจ่ายเป็นเงินสด แต่บางคราวก็ตกลงกันในหุ้น (ซึ่งเรียกว่า SAR ที่มีการซื้อขายหุ้น) รางวัลสต็อกสินค้าคือการมอบหุ้นให้กับพนักงานโดยตรง ในบางกรณีหุ้นเหล่านี้จะได้รับเฉพาะเมื่อมีการปฏิบัติตามเงื่อนไขการปฏิบัติงาน (กลุ่ม บริษัท หรือบุคคลธรรมดา) เท่านั้น รางวัลเหล่านี้มักเรียกว่าประสิทธิภาพการทำงาน แผนซื้อหุ้นของพนักงาน (ESPP) เป็นเพียงเล็กน้อยเช่นแผนตัวเลือกหุ้น ทำให้พนักงานมีโอกาสที่จะซื้อหุ้นโดยปกติจะต้องผ่านการหักเงินจากเงินเดือนเป็นระยะเวลา 3 ถึง 27 เดือน โดยปกติราคาจะถูกลดราคาสูงสุด 15 ราคาจากราคาตลาด บ่อยครั้งที่พนักงานสามารถเลือกซื้อหุ้นได้ในราคาลดจากราคาที่ต่ำกว่าทั้งในตอนต้นหรือตอนท้ายของระยะเวลาเสนอขาย ESPP ซึ่งสามารถเพิ่มส่วนลดได้อีก เช่นเดียวกับตัวเลือกหุ้นหลังจากได้รับหุ้นที่พนักงานสามารถขายได้เพื่อผลกำไรอย่างรวดเร็วหรือถือมันไว้ชั่วขณะหนึ่ง แตกต่างจากตัวเลือกหุ้นราคาลดลงเป็นส่วนใหญ่ ESPPs หมายความว่าพนักงานสามารถมีกำไรแม้ว่าราคาหุ้นได้ลดลงตั้งแต่วันที่ให้สิทธิ์ บริษัท มักจะตั้งค่า ESPPs เป็นแผนภาษีมาตรา 423 ซึ่งหมายความว่าเกือบทุกคนที่ทำงานเต็มเวลากับ 2 ปีหรือมากกว่านั้นต้องได้รับอนุญาตให้เข้าร่วม (แม้ว่าในทางปฏิบัติหลายคนเลือกที่จะไม่ใช้) พนักงานหลายล้านคนเกือบตลอดเวลาใน บริษัท มหาชนอยู่ใน ESPP ESOPs ไม่มีตัวเลือกผู้ที่คุ้นเคยกับตัวเลือกหุ้นและพบกับ ESOP คำบางครั้งคิดว่ามันหมายถึง Employee Stock Option Plan แต่ก็หมายความว่าไม่มีอะไรจัดเรียงตามที่อธิบายข้างต้น ESOP และตัวเลือกต่างกันทั้งหมด ESOP ไม่ใช่คำทั่วไปสำหรับแผนหุ้นของพนักงานซึ่งมีความหมายทางกฎหมายที่เฉพาะเจาะจงมาก (นอกเหนือจากโครงการ ESOP ของสหรัฐฯหมายถึงสิ่งต่างๆเช่นแผนการซื้อหุ้นของ ESOP ในสหรัฐฯ) ตัวเลือกหุ้นซื้อขายเป็นระยะเวลาทั่วไปความเข้าใจผิดที่พบบ่อยอื่น ๆ ก็คือออปชันหุ้นที่เป็นแรงจูงใจเป็นคำทั่วไปสำหรับตัวเลือกหุ้นที่กำหนดให้เป็นแรงจูงใจ พนักงาน ฯลฯ ในความเป็นจริงตัวเลือกหุ้นที่มีแรงจูงใจคือหนึ่งในสองประเภทของตัวเลือกหุ้นชดเชย (ประเภทอื่น ๆ คือตัวเลือกหุ้นที่ไม่ผ่านการรับรอง) และมีข้อกำหนดทางกฎหมายที่เฉพาะเจาะจงมาก สถานการณ์ทั่วไปมีแผนการที่คุณอาจใช้ให้เราดูว่าพวกเขาพอดีกับสถานการณ์ทางธุรกิจทั่วไป: บริษัท เอกชน (อย่างใกล้ชิด) บริษัท วางแผนที่จะไปสาธารณะหรือซื้อ (startups ไฮเทค ฯลฯ ): แม้หุ้นทั้งหมด ตลาดและการเปลี่ยนแปลงกฎบัญชีที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาตัวเลือกยังคงเป็นสกุลเงินของทางเลือกเมื่อมันมาถึงการดึงดูดและรักษาพนักงานที่ดีหลายคนที่มีเทคโนโลยีสูงไม่เคยใช้งานโดยไม่มีตัวเลือก ขณะที่ บริษัท กำลังดำเนินการต่อสาธารณะเป็นเรื่องปกติที่จะวางแผนซื้อหุ้นไว้ในที่เดียวกัน มีความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างไรก็ตามสิทธิในการเพิ่มมูลค่าหุ้นและหุ้นที่ จำกัด เช่นกัน บริษัท ที่ถือครองอย่างใกล้ชิดกับเจ้าของที่ต้องการขายหุ้นบางส่วนหรือทั้งหมด: ESOP มักเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ในกรณีส่วนใหญ่ ESOP จะยืมเงินเพื่อซื้อหุ้น แต่ บริษัท อาจจะใช้เงินสดเป็นเวลาหลายปีในการขายที่ค่อยๆ บริษัท สามารถใช้ดอลลาร์ก่อนหักภาษีเพื่อซื้อเจ้าของได้โดยที่ 822 ไม่มีวิธีใดที่จะทำเช่นนี้มากกว่า ESOP หาก บริษัท เป็น บริษัท C (แทนที่จะเป็น S) เจ้าของหากปฏิบัติตามเงื่อนไขบางอย่างจะสามารถหลีกเลี่ยงการเสียภาษีใด ๆ จากยอดขายที่ขายได้หากนำไปใช้ในหุ้นและพันธบัตรของ บริษัท ที่ดำเนินงานในสหรัฐฯ ตัวเลือกหุ้นจะไม่ทำงานเลย บริษัท ที่ได้รับการถือครองแบบดั้งเดิมซึ่งจะเป็นส่วนบุคคล แต่ไม่มีเจ้าของการขาย: หาก บริษัท ของคุณไม่ได้ประสบปัญหาด้านสภาพคล่อง (เป็นสาธารณะหรือได้มา) คุณก็มีหลายทางเลือก ESOP ให้ผลประโยชน์ทางภาษีมากที่สุดแก่พนักงานและ บริษัท แต่จำเป็นต้องมีการจัดสรรหุ้นตามค่าตอบแทนหรือสูตรระดับมากขึ้นโดยขึ้นอยู่กับข้อกำหนดในการให้สิทธิและการให้บริการเพื่อเข้าสู่แผน สิทธิในการเพิ่มมูลค่าหุ้นหรือหุ้นสามัญจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดถ้าคุณต้องการให้รางวัลแก่พนักงานตามหลักคุณธรรมหรือตามเหตุผลบางประการ ด้วยตัวเลือกหุ้นหรือแผนการซื้อหุ้น บริษัท ของคุณจะต้องสร้างตลาดสำหรับหุ้นซึ่งอาจสร้างปัญหาด้านกฎหมายหลักทรัพย์ที่มีราคาแพงและไม่เอื้ออำนวย ทางเลือกหรือแผนการซื้อจึงมักใช้เป็นค่าตอบแทนในการบริหารงานใน บริษัท ดังกล่าวเท่านั้น บริษัท มหาชนในบางรูปแบบ บริษัท มหาชนมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการเลือกแผนหุ้นเนื่องจาก (1) มีตลาดสำหรับหุ้นซึ่งหมายความว่า บริษัท ไม่จำเป็นต้องซื้อคืนจากพนักงาน (2) ไม่มีหลักทรัพย์ตั้งแต่ หุ้นมีการลงทะเบียนแล้วและ (3) โดยปกติแล้ว บริษัท เหล่านี้มักมีงบประมาณมากกว่า บริษัท เอกชนซึ่งบางแห่งอาจไม่สามารถจ่ายเงินจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับการตั้ง ESOP ได้ ดังนั้นกระบวนการคัดเลือกมีน้อยจะทำอย่างไรกับการกำจัดแผนการที่เพียงแค่ทำงานได้ดีและจะทำอย่างไรกับการชั่งน้ำหนักบวกและ minuses ของพวกเขา หุ้นที่มีการ จำกัด การถือครองหุ้นสิทธิในการเพิ่มมูลค่าหุ้นและหุ้นของ บริษัท Phantom (และแผนการซื้อหุ้นของ บริษัท อื่น ๆ ) จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อคุณจ้างพนักงานที่คาดว่าจะเป็นเงื่อนไขการจ้างงาน และการมีพนักงานซื้อหุ้นผ่านตัวเลือกและแผนการซื้ออาจเป็นแหล่งรายได้สำหรับ บริษัท อย่างไรก็ตามอย่าลืมโครงการ ESOPs เป็นโครงการระยะยาวและเป็นประโยชน์สำหรับพนักงานที่เสียภาษีดังนั้น ESOP จึงสามารถช่วยให้ บริษัท และพนักงานสามารถพัฒนาวัฒนธรรมการเป็นเจ้าของได้อย่างแท้จริง การใช้แผนงาน 401 (k) สำหรับหุ้นนายจ้างใน บริษัท มหาชนเป็นที่ถกเถียงกันมากขึ้น เมื่อเกิดเรื่องอื้อฉาวทางบัญชีที่ Enron และ บริษัท อื่น ๆ นายจ้างหลายสิบคนได้ยื่นฟ้องต่อนายจ้างและวางแผนที่จะไม่ลบหุ้นนายจ้างออกเป็นตัวเลือกการลงทุนในแผน 401 (k) และยังคงมีส่วนร่วมในหุ้นของ บริษัท ต่อไป กระบวนการเดียวกันนี้เริ่มต้นขึ้นหลังจากเหตุการณ์ความไม่สงบในตลาดหุ้นในปีพ. ศ. 2551 และ พ. ศ. 2552 พนักงานเริ่มย้ายทรัพย์สินออกจากหุ้นของนายจ้าง (ลดลงจาก 19 แห่งในช่วงต้นทศวรรษที่ 10 เมื่อสิ้นสุด) และ บริษัท ต่างๆก็กลายเป็น ระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับการสต็อกสินค้าของ บริษัท มากเกินไปในแผน สำหรับ บริษัท อื่นหลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรที่ชาญฉลาด ในหลาย ๆ กรณีคุณจะต้องมีแผนอย่างน้อย 2 แบบเช่นแผนแบบเลือกหุ้นแบบกว้างพร้อมด้วย ESOP หรือแผนการเลือกผู้บริหารรวมถึงแผนการซื้อแบบ 423 รายการในวงกว้าง ฯลฯ สิ่งที่คุณจะทำ ขึ้นอยู่กับความต้องการและความต้องการของ บริษัท และพนักงานของคุณ ถ้า บริษัท ของคุณมีขนาดเล็กมาก (อาจจะ 7 หรือ 10 คน) มีแผนจะอยู่แบบนั้นและค่าใช้จ่ายในการตั้ง ESOP หรือแม้กระทั่งแผน 401 (k) ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ต้องห้าม คำตอบสำหรับคุณบางทีโบนัสเงินสดปีขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของ บริษัท จะดีกว่าแผนหุ้น คุณอาจอ่านคู่มือแนวคิดของเราเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์สำหรับธุรกิจขนาดเล็กมากสำหรับแนวคิดเพิ่มเติมและพื้นฐานทั่วไปในประเด็นต่างๆ ส่วนของผู้ถือหุ้นสังเคราะห์ (Synthetic Equity) ส่วนของผู้ถือหุ้นสังเคราะห์ (Synthetic Equity) หมายถึงแผนการต่างๆเช่นหุ้นของ Phantom stock หรือหุ้นเพิ่มขึ้น (SARs) ที่ให้พนักงานจ่ายเงินโดยปกติจะเป็นเงินสดตามการเพิ่มมูลค่าหุ้นของ บริษัท พนักงานอาจได้รับหุ้นแทนที่จะเป็นเงินสดในกรณีหุ้นที่มีหุ้นอยู่ในหุ้นซึ่งมักจะเรียกว่าแผนหุ้นที่ถูก จำกัด แผนทุนสังเคราะห์เป็นเรื่องง่ายในการสร้างและรักษาและโดยทั่วไปแล้วจะไม่อยู่ภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ (ไม่ได้เป็นเพียงการคาดเดาของคณะกรรมการหรือสูตรง่ายๆ) และทุนจะถือว่าเป็นค่าตอบแทนสำหรับวัตถุประสงค์ทางบัญชี ถ้าแผนถูกออกแบบมาเพื่อจ่ายเงินออกไปเมื่อเกษียณอายุหรือบางวันได้ดีในอนาคตอาจถือได้ว่าเป็นแผนการเกษียณอายุและต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบที่ซับซ้อนของพระราชบัญญัติการรักษาความปลอดภัยของรายได้ของพนักงาน (ERISA) หากไม่ จำกัด เพียงจำนวนน้อย พนักงาน แผนกับการจ่ายเงินทั่วไปของสามถึงห้าปีไม่ได้เป็นปัญหา จะไปได้จากที่นี่บทความในลักษณะนี้สามารถทำให้พื้นผิวของวัตถุที่ซับซ้อนซับซ้อนได้ ข้อเสนอแนะที่ทำขึ้นในที่นี้เป็นเพียงคำแนะนำเท่านั้นและอาจไม่เหมาะกับสถานการณ์เฉพาะของคุณ 822 เหตุผลที่หัวข้อข้างต้นอ่านสถานการณ์ทั่วไป เป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องให้ความรู้เพิ่มเติมและหากคุณวางแผนที่จะจ้างคนที่เหมาะสมเพื่อช่วยคุณ เว็บไซต์ของเรามีบทความมากมายเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของพนักงาน การแนะนำทั่วไปเกี่ยวกับแผนการทั้งหมดเหล่านี้เป็นภาพรวมที่ครอบคลุมของการเป็นเจ้าของพนักงาน นอกจากนี้เรายังมีสิ่งพิมพ์มากมาย ตั้งแต่เรื่องสั้นเรื่องสั้นจนถึงหนังสือที่ยาวเกินไป จุดเริ่มต้นที่ดีหากคุณไม่แน่ใจว่าแผนแบบไหนที่คุณต้องการคือคู่มือการตัดสินใจสำหรับการชดเชยส่วนของผู้มีอำนาจตัดสินใจ คำแนะนำส่วนบุคคลและข้อเสนอแนะถ้าคุณเป็นสมาชิก NCEO หรือถ้าคุณเข้าร่วมกับเราคุณสามารถโทรหรืออีเมลล์พร้อมคำถามหรือเพียงเพื่อให้มีการอภิปรายทั่วไป เราขอแนะนำให้สมาชิกที่กำลังตัดสินใจว่าจะใช้แผนใดในการปรึกษากับเรา นอกจากนี้คุณสามารถจ้างเราเพื่อพูดคุยกับ บริษัท ของคุณหรือให้คำแนะนำเบื้องต้น การจ้างผู้ให้บริการเพื่อตั้งแผนของคุณเป็นสิ่งสำคัญไม่เพียง แต่ที่คุณจะทราบดี แต่ยังว่าคุณจ้างผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณภาพและมีจริยธรรม อ่านบทความของเราเกี่ยวกับการเลือกผู้ให้บริการจากนั้นปรึกษากับ Service Provider Directory ของเรา สมาชิกสามารถเข้าถึงไดเร็กทอรี ESOP Lender Directory ในพื้นที่สำหรับสมาชิกเท่านั้นในเว็บไซต์ของเรา อย่าลืม แผนพนักงานอาจหมายถึงพนักงานน้อยมากเว้นแต่คุณจะสื่อสารได้ดีในขณะที่คุณสำรวจสิ่งที่เราเสนอให้อย่าพลาดแหล่งข้อมูลของเราในการติดต่อสื่อสารกับพนักงาน (เช่น ESOP Communications Sourcebook รวมทั้งการสัมมนาทางเว็บและการพบปะผู้คนใน การติดต่อสื่อสารกับพนักงาน) รวมทั้งทรัพยากรการเป็นเจ้าของของเรา สำหรับหนังสือแนะนำเกี่ยวกับการเลือกและการออกแบบแผนหุ้นของ บริษัท ให้ดูที่คู่มือการตัดสินใจของผู้มีอำนาจในการชดเชยส่วนของผู้ถือหุ้น (Equity Compensation)